Pin It
 
 
 
"แกงหมากมี่" หรือ "อ่อมหมากมี่" อาจจะเรียกเป็นภาษากลางว่า "แกงเปอะขนุนอ่อน" เป็นแกงขนุนอ่อนสูตรอีสาน รสชาติอร่อยแบบแกงเปอะหน่อไม้ มีรสหวานของขนุนอ่อนร่วมด้วย ... อร่อยมากๆ เป็นอาหารโปรดอีกเมนูหนึ่งที่ได้ทานมาตั้งแต่เด็ก  จะว่าไปแล้วเป็นเมนูที่ทำเป็นแกงสำเร็จขายค่อนข้างหาซื้อได้ยาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ค่อยมีใครทำขาย ... แม่ค้าชาวอีสานบางคนก็อาจจะไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำไปค่ะ
 
ส่วนผสม
1. ขนุนอ่อน ประมาณ ๑ กิโลกรัม ตัดเป็นชิ้นพอดีคำ
2. ใบชะพลู (ผักอีเลิด)
3. ใบย่านาง
4. หมูสับ ประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ กรัม และซี่โครงหมู หรือหมูสามชั้น
5. ข้าวเบือ ประมาณ ๑ ถ้วยเล็ก (ข้าวสารเหนียวแช่น้ำไว้อย่างน้อยประมาณ ๓ ชั่วโมง)
6. หอมแดง ๕-๖ หัว
7. ตะไคร้ ๒-๓ ต้น
8. พริกสด (ตามชอบ)
9. เครื่องปรุงรส (เกลือ น้ำปลา น้ำปลาร้า) - น้ำปลา้ร้า ถ้าไม่ชอบไม่ใส่ก็ได้
 
การเตรียม
- นำข้าวสารเหนียวประมาณ 1 กำมือ แช่น้ำไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือแช่ค้างคืนก็ได้
 
 
วิธีทำ
1. ขนุนอ่อน ให้ซื้อแบบที่ปอกเปลือกแล้ว มาล้างน้ำและตัดเป็นชิ้นพอดีคำ ถ้ามีเมล็ดใหญ่แล้ว ให้คัด ลอกเอาเปลือกหุ้มเมล็ดที่เป็นกากทิ้ง เอาไว้แต่เนื้อในเมล็ดขาวๆ และเนื้อขนุน (ระวังอย่าให้ยางขนุนติดเสื้อ จะซักออกยาก)
2. หมูสามชั้นหรือซี่โครง (แล้วแต่จะเลือกใช้) ล้างให้สะอาด แยกไว้ ส่วนหมูสับให้หมักเกลือและน้ำปลาเล็กน้อยทิ้งไว้
3. ตะไคร้หั่นฝอย ตำหรือโขลกให้ละเอียด หอมแดงหั่นหรือผ่าครึ่ง ใส่ลงไปตำรวมกันให้ละเอียด .. ถ้าชอบเผ็ดใส่พริกลงไปโขลกรวมกันด้วยตามชอบ
4. ใส่หมูสามชั้น (หรือซี่โครงหมู) ลงในหม้อ นำเครื่องแกงที่ตำไว้แล้ว (ตะไคร้ หอมแดง พริก) ใส่ลงไปคลุกกับหมู เติมน้ำเล็กน้อย ตั้งไฟ ใช้ทัพพีคนให้ทั่ว จนหมูสุกได้ที่
5. นำขนุนอ่อนที่ล้างเตรียมไว้แล้ว ใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำให้พอดีกับขนุน (อย่าให้ท่วมเยอะ) คนให้เข้ากัน ตั้งไฟต้มต่อไปจนขนุนอ่อนสุกและนิ่มได้ที่ มีน้ำขลุกขลิกน้อย

พอขนุนสุกและนิ่มได้ที่แล้ว ปิดไฟพักไว้ก่อนได้ หรือ ระหว่างรอขนุนอ่อนสุก ถ้าเตรียมข้อ 6-7-8 เสร็จแล้วก็ทำต่อไปได้เลย

6. ใบชะพลูประมาณ 30-50 ใบ หรือใส่ตามชอบ ล้างให้สะอาด เอามาหั่นซอย หนาประมาณ 1 ซม. รอไว้
7. ใบย่านางประมาณ 30-40 ใบ ล้างให้สะอาด มาคั้นเอาน้ำใบย่านาง หรือ นำมาหั่นซอยไม่เล็กมาก ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด แล้วใช้ผ้ากรองเอากากทิ้ง สามารถเติมน้ำแล้วคั้นต่อเอาน้ำใบย่านางให้เพียงพอได้
8. นำข้าวที่แช่น้ำไว้ได้ที่แล้ว (เรียกว่า ข้าวเบือ) เทน้ำทิ้ง นำมาตำหรือโขลกให้ละเอียดเป็นแป้ง และผสมน้ำเล็กน้อย ใช้น้ำใบย่านางผสมหรือน้ำเปล่าก็ได้ บดให้เป็นน้ำแป้งข้าว

9. เติมน้ำย่านางที่คั้นไว้ใส่ลงไปในหม้อให้พอดีท่วมขนุน คนให้เข้ากัน
10. เติมเกลือ 1 ช้อนชา เติมน้ำปลา 1 ทัพพี น้ำปลาร้า 1 ทัพพี (ถ้าไม่ชอบปลาร้า ไม่ใส่ก็ได้)
11. ใส่พริกเม็ดลงไปตามชอบ (หรือไม่ใส่ก็ได้)
12. เติมน้ำแป้งข้าวเบือที่ผสมไว้ คนให้เข้ากัน
13. ยกขึ้นตั้งไฟต่อ ใช้ทัพพีคนไว้ไม่ให้แป้งข้าวติดก้นหม้อ พอน้ำแกงเริ่มเดือด เอาหมูสับใส่ลงไป คนให้ละลายเข้ากับน้ำแกง (ถ้าน้ำแกงเริ่มเหนียว หมายถึง แป้งข้าวสุกแล้ว) จากนั้นชิมรสตามชอบ ถ้ารสจืดไปให้เติมน้ำปลา ปรุงรสตามชอบ
15. ใส่ใบชะพลูที่หั่นซอยไว้ คนให้เข้ากัน แล้วปิดไฟทันที
ทั้งไว้สักครู่ ตักใส่ชามพร้อมเสริฟค่ะ

 

----------------------------
Photo & story written by Ang Gate
Facebook Page: ครัวเต็มอิ่ม Krua TEM IM

 

 

 

 

Pin It